ที่เที่ยวกาญจนบุรี ธรรมชาติ

ที่เที่ยวกาญจนบุรี ธรรมชาติ จังหวัดกาญจนบุรีอยู่ใกล้กับกรุงเทพฯ และมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ร้านกาแฟ ที่พัก และจุดเช็คอินมากมาย ทำให้เป็นเมืองที่น่าไปเยือน ไม่ว่าฉันจะไปกี่ครั้งฉันก็ไม่เบื่อและสนุกและตื่นเต้นอยู่เสมอ สำหรับเพื่อน มีใครไม่เคยไปเที่ยวกาญจนบุรีบ้างมั้ยอยากบอกลองสักครั้งด้วยใจที่เปิดกว้าง ถ้าไม่รู้จะไปไหนดี

ไปกี่ที ก็ไม่มีคำว่าเบื่อ ที่เที่ยวกาญจนบุรี ธรรมชาติ

1.สะพานข้ามแม่น้ำแคว, กาญจนบุรี

ที่เที่ยวกาญจนบุรี ธรรมชาติ สะพานข้ามแม่น้ำแคว โบราณสถานและสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ สร้างขึ้นในช่วงสงครามมหาเอเชียบูรพา กองทัพญี่ปุ่นเกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตรจำนวนมากให้สร้างทางรถไฟผ่านประเทศพม่าซึ่งจำเป็นต้องสร้างข้ามแม่น้ำแควก็มี ทำให้การก่อสร้างทางรถไฟเป็นเรื่องยากมาก เชลยศึกเสียชีวิตจำนวนมาก ปัจจุบัน สะพานแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ นี่เป็นจุดเช็คอินสำคัญอีกจุดหนึ่งที่ควรแวะสักครั้ง

  • Location: ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
  • Open – Close: สามารถเดินชมได้ตลอดทั้งวัน
  • Phone: การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร 02 621 8701 ต่อ 5202
  • Fee: ไม่เสียค่าเข้าชม

2.วัดถ้ำเสือ, กาญจนบุรี

วัดถ้ำเสือเป็นวัดเก่าแก่ในอำเภอถ้ำเมืองซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาและมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีพระพุทธรูป ปางประทานพร ประดับโมเสกทองคำที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี และเขตแก้วปราสาทเจดีย์อันสง่างามซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วย บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ก็รู้จัก มาจุ่มบ่อเพื่อโชคลาภกัน ลมเย็นพัดมาบนยอดวิหาร และหากมองลงไปจะมองเห็นทุ่งนาเขียวขจีรอบๆ วัด

  • Location: วัดถ้ำเสือ ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
  • Open – Close: เปิดทำการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30
  • Phone: 098 490 0316

3.อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์, กาญจนบุรี

ปราสาทเมืองสิน ปราสาทที่โดดเด่นและสมบูรณ์ที่สุดในอุทยานฯ ปราสาทยังคงสวยงามและสร้างด้วยศิลาแลง บรรยากาศโดยรอบประกอบด้วยต้นไม้สูงให้ร่มเงา ร่มรื่น และเงียบสงบ ความยิ่งใหญ่ของปราสาทยังดูน่าดึงดูดยิ่งกว่าเดิมอีก มันทำให้เรานึกถึงความงามและความยิ่งใหญ่ของปราสาทแห่งนี้ในอดีต มันมีอยู่จนถึงขณะนี้

  • Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 09.00 – 16.30 น.
  • Price: ค่าเข้าชมท่านละ 20 บาท

4.เขื่อนศรีนครินทร์, กาญจนบุรี

เขื่อนศรีนครินทร์ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว พักผ่อน ถ่ายรูป ชมพระอาทิตย์ตกก็สนุกมาก จุดเด่นของมันคือคันเขื่อนซึ่งคุณสามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำได้ไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ค่าเข้าชมฟรีเนื่องจากตั้งอยู่บนยอดเขื่อน หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อน จุดถ่ายรูป บรรยากาศดีๆ แบบนี้ แวะมาได้เลย

  • Open – Close: 06.00 – 18.00 น.
  • Price: ไม่เสียค่าเข้าชม

5.หมู่บ้านอีต่อง-ปิล๊อก, กาญจนบุรี

หมู่บ้านอีตันภิโรก เป็นหมู่บ้านที่ซ่อนเร้นที่สุดในสายหมอกและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปีและวิถีชีวิตที่น่าดึงดูด ทำให้ผู้คนจำนวนมากเลือกมาที่นี่เพื่อสัมผัสบรรยากาศหมู่บ้านเล็กๆ บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของเหมืองเสาเข็มเก่าและบ่อปลาธรรมชาติ ถนนคนเดินก็จัดขึ้นทุกวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ เรารับประกันว่าคุณจะพึงพอใจมาก

  • Location: ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

6.เขาแหลมสกายวอล์ค, กาญจนบุรี

สะพานแก้วภายในเขื่อนวชิราลงกรณ์ จุดเช็คอินใหม่มีทางเดินกระจกสูง 8.30 เมตร ยาว 34 เมตร มองเห็นวิวภูเขาเขียวชอุ่มสวยงาม เดินเล่นรับลมเย็นๆจากธรรมชาติกันเถอะ มองผ่านกระจกใสก็จะเห็นม่านน้ำตกที่งดงามที่สุด มีสวนดอกไม้บริเวณด้านล่าง และน้ำพุเล็กๆ ก็สามารถเดินเล่นถ่ายรูปได้ หากคุณชอบแสงไฟยามค่ำคืนโปรดเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของค่ำคืนที่มีการประดับไฟที่สวยงามตั้งแต่เวลา 18.00 น. บรรยากาศแตกต่างจากตอนกลางวันอย่างเห็นได้ชัด

  • Location: 444 หมู่ที่ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
  • Open-Close: เปิดบริการทุกวัน เวลา 07.00 – 21.00 น. (ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป จะมีการเปิดแสงไฟ)
  • Fee: ไม่มีค่าธรรมเนียมการเข้าชม
  • Phone: 034 599 077 ต่อ 2011
  • Facebook: เขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี

7.ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ, กาญจนบุรี

ถ้ำกระแซตั้งอยู่ติดกับทางรถไฟสายมรณะซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากเคยใช้เป็นที่พักพิงเชลยศึกเมื่อทางรถไฟไปพม่าถูกสร้างขึ้นจากเพลิงไหม้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในจังหวัดกาญจนบุรี . เมื่อมองออกจากปากถ้ำจะมองเห็นทางรถไฟคดเคี้ยวไปตามเทือกเขาและแม่น้ำแควน้อยเบื้องล่าง ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณจะต้องอยากถ่ายรูปและเก็บไว้เป็นความทรงจำอย่างแน่นอน

  • Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 08.00 – 18.00 น.
  • Price: ไม่เสียค่าเข้าชม

8.น้ำตกเอราวัณ, กาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในอำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี แบ่งออกเป็น 7 ชั้น ได้แก่ ไหลคืนลัง วังมัจฉะ พนมตก ออกปีเสือ และบรมใหม่ ดอนปุรักษาและชั้นสุดท้ายเรียกว่าภูป่าเอราวัณ และทั้ง 7 ชั้นมีความสวยงามที่แตกต่างกัน การเดินทางไปน้ำตกให้จอดรถในลานจอดรถแล้วเดินต่อไปประมาณ 3 กม. มีรถกอล์ฟรับ-ส่ง (เสียค่าบริการ) ใช้เวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมงในการเดินระหว่างชั้น 7 แต่ก็คุ้มค่ามาก

  • Location: อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ม.4 ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
  • Open – Close: เปิดทำการทุกวันเวลา 08.00 – 16.00 น.
  • Phone: 0 3457 4222, 0 3457 4234
  • Fee: ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 100 บาท/คน เด็ก 50 บาท/คน

9.น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น, กาญจนบุรี

น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้ำตกแบ่งออกเป็นชั้นหินธรรมชาติที่สวยงามและมีทั้งหมด 7 ขั้นตอน เดินชมน้ำตกได้ 2 วิธี คือ 4 ขั้น 3 ขั้น 2 ขั้น 1 ขั้น และแบบเดิม มี สองวิธีในการกลับไปยังสถานที่ หลังจากนั้นคุณจะเดินไปที่ชั้น 5, 6 และ 7 ดังนั้นเราขอแนะนำให้เลือกเส้นทางที่เดินง่าย อยู่ชั้น 4, 3, 2 และ 1 ซึ่งสบายกว่าอีกฝั่ง ด้านนี้ของโซนมีสะพานไม้ทอดยาวไปถึงชั้นล่าง น้ำตกแต่ละแห่งมีระดับที่แตกต่างกัน และหลังจากเดินเพียงไม่กี่ก้าวก็ได้ยินเสียงน้ำตก นั่นคือจุดที่น่าตื่นเต้นจุดแรกของน้ำตกชั้นที่ 4 น้ำตกชั้นนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ฉันไม่สามารถเล่นได้ คุณสามารถเล่นในอ่างอาบน้ำชั้นล่างได้

  • Location: อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
  • Open – Close: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 7.30-16.00 น.

10.น้ำพุร้อนหินดาด, กาญจนบุรี (Hindard Hot Spring)

บ่อน้ำพุร้อนหินดาด บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติในอำเภอทองฮวาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศในการมาพักผ่อน น้ำพุร้อนนี้เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่ค้นพบโดยทหารญี่ปุ่นหลังสงครามโลกครั้งที่สอง และเป็นเพราะเป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่พุ่งออกมาจากใต้ดิน จึงเชื่อกันว่าการแช่น้ำจะช่วยรักษาโรคได้ ตามประวัติของน้ำพุร้อนแห่งนี้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นที่ถูกจับเข้าคุกขณะสร้างทางรถไฟสายมรณะได้ค้นพบน้ำพุร้อนนี้โดยบังเอิญและสร้างบ่อซีเมนต์สำหรับอาบน้ำ จากความเมื่อยล้า ปัจจุบันได้เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมไม่เพียงแต่สำหรับชาวไทยเท่านั้นแต่สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย

  • Location: บ้านกุยมั่ง ม.6 ต.หินดาด อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
  • Open – Close: เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 – 22.00 น.
  • Phone: 034 531 048
  • Fee: ค่าเข้า 20 บาท/คน

11.ต้นจามจุรียักษ์, กาญจนบุรี

ต้นจามจุรียักษ์ จุดเช็คอินยอดนิยมได้รับการปรับปรุงใหม่ทำให้ทางเดินของต้นไม้สวยงามขึ้น สบายขึ้น และเดินได้ง่ายขึ้น ต้นจามจุรียักษ์นี้มีอายุมากกว่า 100 ปี มีลำต้นที่จุคนได้ 10 คน และมีรัศมีของต้นไม้ประมาณ 25.87 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางร่มเงาประมาณ 51.75 เมตร และสูงจากร่มเงาประมาณ 51.75 เมตร ต้นไม้สูงจากพื้นดินประมาณ 20 เมตร มีขนาดใหญ่มากจนนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเยี่ยมชมและถ่ายรูป ดังนั้น เพื่อนๆ ที่มากาญจนบุรีควรแวะชมความยิ่งใหญ่ของต้นจามจุรียักษ์แห่งนี้อย่างแน่นอน เราสัญญาว่าคุณจะต้องประทับใจ

  • Location: บ้านกสิกรรม ม.5 ต.เกาะสำโรง อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
  • Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 06.00 – 18.00 น.
  • Fee: เข้าชมฟรี

12.สวนสัตว์ ซาฟารี ปาร์ค & แคมป์ บ่อพลอย, กาญจนบุรี

Safari Park & ​​​​Camp Zoo เป็นสวนสัตว์แห่งแรกที่เปิดในจังหวัดกาญจนบุรีและยังเป็นสถานที่ที่สัตว์หลายชนิดได้รับการช่วยเหลือและเพาะพันธุ์ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ของสัตว์ต่างๆ เช่น ยีราฟ ช้าง ม้าลาย อูฐ เสือ สิงโต เสือดาว หมี ควาย ลามะ นกกระจอกเทศ และกวางชนิดต่างๆ สิ่งที่พลาดไม่ได้คือการกอดคอยีราฟที่เดียวในโลกที่คุณสามารถถ่ายรูปได้ นอกจากนี้ยังมีการแสดงของสัตว์ต่างๆ ในระหว่างการแสดงช้างและจระเข้ คุณยังสามารถให้อาหารลูกเสือ เสือดาว และสิงโตได้อีกด้วย จุดเช็คอินอีกแห่งในกาญจนบุรีที่ต้องไปสักครั้ง

  • Location: 40/2 หมู่5 ต.หนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
  • Open – Close: เปิดทุกวันเวลา 09.00 – 17.00 น.
  • Price: ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน เด็ก 100 บาท/คน
  • Phone: 034 678 225, 086 300 0667
  • Facebook: สวนสัตว์เปิด ซาฟารี ปาร์ค แอนด์ แคมป์

บทความแนะนำ